ตลาดเอเชียแปซิฟิกหลายแห่งเผชิญกับความผันผวนในวันพฤหัสบดีหลังจากการลดลงสองวันติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้น ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ดัชนี Kospi ลดลง 3.24% ในสองช่วงก่อนหน้านี้ การลดลงนี้ทำให้กำไรมากกว่าครึ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์เป็นโมฆะ โดยได้รับแรงกระตุ้นจากการบังคับใช้คำสั่งห้ามขายชอร์ตของประเทศอีกครั้ง
ในประเทศจีน ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่าราคาผู้บริโภคหดตัว 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนตุลาคม ซึ่งสูงกว่าการลดลง 0.1% ที่นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Reuters คาดการณ์ไว้ในตอนแรก นอกจากนี้ราคาผู้ผลิตลดลง 2.6% ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 2.7%
Kospi สามารถปิดสูงขึ้น 0.23% ที่ 2,427.08 โดยค่อยๆ ฟื้นตัวจากการขาดทุนที่เกิดขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมา ในทางกลับกัน Kosdaq เผชิญกับการลดลง 1% นับเป็นวันที่สามติดต่อกันเป็นสีแดง
ในขณะเดียวกัน ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงประสบปัญหาการลดลง 0.22% ในชั่วโมงการซื้อขายสุดท้าย ซึ่งถือเป็นวันที่สามติดต่อกันที่ขาดทุน ในทางกลับกัน ดัชนี CSI 300 ของจีน สรุปวันนี้ทรงตัวที่ 3,612.83
ในญี่ปุ่น ดัชนี Nikkei 225 เพิ่มขึ้น 1.49% แตะ 32,646.46 ในขณะที่ดัชนี Topix ก็เพิ่มขึ้น 1.26% แตะ 2,335.12
ในออสเตรเลีย ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดสูงขึ้น 0.28% ที่ 7,014.90
ทั่วแปซิฟิก ตลาดสหรัฐฯ ปิดตัวสูงขึ้น โดยดัชนี S&P 500 ขยายแนวการชนะต่อเนื่องเป็นแปดวันติดต่อกันในวันพุธ ซึ่งยาวนานที่สุดในรอบสองปี ดัชนีสูงขึ้น 0.1% ซึ่งตรงกับสตรีคการชนะแปดวันที่เคยทำได้ในเดือนพฤศจิกายน 2021
ดัชนี Nasdaq Composite ยังมีการปรับขึ้นเล็กน้อยที่ 0.08% ซึ่งถือเป็นวันที่เป็นบวกเป็นวันที่ 9 นับเป็นการคว้าแชมป์ติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบสองปี อย่างไรก็ตาม ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 0.12% ส่งผลให้การคว้าแชมป์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมสิ้นสุดลง