ความตึงเครียดด้านภาษีศุลกากรและสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลต่อตลาด
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายเอเชียในวันพฤหัสบดี โดยส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในกรอบล่าสุด สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดงในสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันความตั้งใจที่จะจัดเก็บภาษีนำเข้าทองแดง ขณะเดียวกัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐโดยรวมเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงมีอยู่
ทองคำได้รับแรงหนุนเล็กน้อยจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง หลังจากรายงานการประชุมเฟดที่เผยให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับช่วงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีของทรัมป์
ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าทองแดงทั้งหมดของสหรัฐฯ ในอัตรา 50% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป การดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ปริมาณทองแดงในประเทศตึงตัวขึ้นอย่างมาก เมื่อพิจารณาว่าการนำเข้าของสหรัฐฯ คิดเป็นอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของความต้องการ
ในตลาดน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ แม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 7.07 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังลดลง 2.65 ล้านบาร์เรล ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดที่แข็งแกร่ง
ความตึงเครียดในทะเลแดงปะทุขึ้นอีกครั้งหลังจากการโจมตีเรือสินค้าจมลง ทำให้ลูกเรือเสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮูตีทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการขนส่งและการจัดหาน้ำมัน ขณะเดียวกัน โอเปกพลัสเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนกันยายน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มโควตาที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์วางแผนไว้
บทสรุป
ตลาดกำลังถูกดึงไปในหลายทิศทาง ตั้งแต่แผนภาษีที่เข้มงวดของทรัมป์ ไปจนถึงสัญญาณที่ขัดแย้งกันของเฟด และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กลับมาอีกครั้งในเส้นทางการขนส่งพลังงาน การติดตามข้อมูลข่าวสารและความคล่องตัวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่ผันผวนเช่นนี้